
อันดับที่ 1 เกาะยะกุชิมะ จังหวัดคาโงชิมะ
เกาะยะกุชิมะ(Yakushima Island) เป็นเกาะที่มีความงดงามทางธรรมชาติสูงมาก โดยมีลักษณะเป็นเกาะรูปทรงกลมที่ตั้งอยู่ในจังหวัดคะโงะชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ห่างจากตัวเกาะคิวชูไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 60 กิโลเมตร
จุดเด่นของเกาะคือต้นไม้ Cryptomeria หรือ สุงิ ขนาดใหญ่จำนวนมากซึ่งมีอายุนับได้กว่าพันปี เช่น ต้นโจมงซุงิ ซึ่งมีเส้นรอบวงถึง 16.1 เมตร สูง 30 เมตร และมีอายุกว่า 3,000 ปี นอกจากนั้นสภาพอากาศบนเกาะที่มีตั้งแต่สถาพอากาศแบบเขตกึ่งร้อนชื้นจนถึงสภาพอากาศแบบหนาวเย็น ยังเป็นจุดสนใจของเกาะนี้จากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมอีกด้วยอีกด้วย


อันดับที่ 2 หมู่เกาะโอกาซาวาระ
เกาะโอซากาวาระห่างจากศูนย์กลางโตเกียวไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ประมาน1000กิโลเมตร ความยาวเหนือจรดใต้ประมาณ400กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่อีกมากกว่า30เกาะ มีพื้นที่ทั้งหมด7940ไร่ เป็นเกาะที่อยู่ในมหาสมุทร จึงทำให้พืชและสัตว์มีวิวัฒนาการเป็นของตัวเอง จึงเกิดการทดลองทางวิวัฒนาการของพืชและสัตว์ที่อยู่บนเกาะซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็น"กาลาปากอสฝั่งตะวันออก"
อันดับที่ 3 เมืองหลวงเก่าเกียวโต
เมืองเกียวโต หรือ เมืองเคียวโตะ (「京都市」, Kyōto-shi, 京都市) (โดยทั่วไปมักสะกดว่า "เกียวโต") ทีลักษณะคล้ายๆกับเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเคียวโตะ อดีตเมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 1,200 ปีก่อน ในเมืองเคียวโตะมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย อาทิ เช่น วัดคิงกะกุถูกสร้างเมื่อปี พ.ศ. 1940 เป็นวัดที่ถูกสร้างโดยอาชิคางะ โยะชิมิสึ ซึ่งเป็นโชกุนแห่งรัฐบาลมุโระมะจิ วัดคิงกะกุนี้สร้างจากทอง ปัจจุบันนี้ มีผู้มาเยี่ยมชมมากมาย และยังมีอะมะโนะฮะชิดะเตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามของสถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นซึ่งมีความสวยงาม

อันดับที่ 4 ชิเระโตะโกะ จังหวัดฮอกไกโด
มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรชิเรโทโกะที่ปลายสุดทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น คำว่า "ชิเระโตโกะ" เป็นคำในภาษาไอนุ มีความหมายว่า "จุดสุดขอบโลก" คาบสมุทรแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากเมืองมากที่สุดแห่งหนึ่งใน ญี่ปุ่น ทำให้มีพื้นที่หลายส่วนบนคาบสมุทรที่เข้าถึงได้จากการเดินเท้าและทางเรือ เท่านั้น อุทยานนี้เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งที่พบประชากรหมีเป็นจำนวนมากที่สุดใน

อันดับที่ 5 ศาลเจ้าอิสึกุชิมะ จังหวัดฮิโรชิมะ
ศาลเจ้าอิสึกุชิมะสร้วขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 6 และอาคารในปัจจุบันสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญของญี่ปุ่น ในอดีตเนื่องจากเกาะนี้เป็นเกาะศักสิทธิ์ สามัญชนจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นมาบนเกาะได้ ดังนั้นศาลเจ้าจึงสร้างบนฐานที่อยู่ในน้ำ และผู้ที่มาแสวงงบุญจะเดินทางมาทางเรือและแล่นเรือผ่านซุ้มประตูที่ตั้งอยู่ในทะเล ซึ่งซุ้มประตูของศาลเจ้าแห่งนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตอนน้ำลงจะสามารถเดินไปยังซุ้มประตูได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยว

อันดับที่ 6 อาณาจักรริวกิว จังหวัดโอกินาว่า
เกาะโอกินาว่า เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดใน หมู่เกาะริวกิว ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งฐานทัพเรือของสหรัฐฯในช่วงสงครามโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ ตั้งอยู่บนเกาะโอกินาว่า มีเมืองนาฮา เป็นเมืองหลวง ในอดีตเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรริวกิว
อันดับที่ 7 ภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจินี้เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นเรียกภูเขาไฟฟูจิว่า ฟูจิซัง (Fujisan– 富士山) มีความสูงราว 3,776 เมตร (12,388 ฟุต) จากวัดเส้นรอบวงของภูเขาไฟฟูจิวัดเส้นรอบวงได้ประมาณ 100 กิโลเมตร (โอ้ใหญ่มั่ก ๆ) ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซึโอะกะ และจังหวัดยะมะนะชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดโตเกียว ภูเขาไฟฟูจิเคยระเบิดมาแล้วซึ่งครั้งหลังสุดที่ระเบิดคือเมื่อปี พ. ศ. 2250 (ค.ศ. 1707) ซึ่งตรงกับยุดเอโดะ


อันดับที่ 8 ชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ จังหวัดกิฟุ
หมู่บ้านทางประวัติศาสตร์แห่งชิระงะวะโงและโกะกะยะมะ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขาและตัดขาดจากโลกภายนอกเป็นระยะ เวลานาน ทำให้ทั้งสองหมู่บ้านยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นและยังคงรักษาบ้านแบบโบราณที่เป็นแบบฉบับของที่นี่ได้เป็นอย่างดี บ้านที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นรูปทรงที่เรียกว่า บ้านพนมมือ เนื่องจากหลังคาที่ชันและประกบกันคล้ายนพนมมือ ที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น หลังคามุงด้วยกกและมีความชันเพื่อรับมือกับหิมะที่ตกหนักในเขตนี้ บ้านแต่ละหลังมีสามถึงสี่ชัน และชั้นบนสุดมักจะมีการเลี้ยงไหมด้วย


อันดับที่ 9 ปราสาทฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ
ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงครามชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคาร
ต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมี
เครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท
จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและ
กำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดย
ทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่
ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิ
เมจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน

อันดับที่ 10 นิกโก้ จังหวัดโทะชิกิ
ศาลเจ้าและวัดแห่งนิกโกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนประกอบด้วย สิ่งก่อสร้างทั้งสิ้น 130 แห่ง ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้างและโครงสร้าง 23 หลัง ของศาลเจ้าฟุตะระซันซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโต สิ่งก่อสร้าง 42 หลัง
ของศาลเจ้านิกโกโทโช และสิ่งก่อสร้าง 38 หลังของวัดรินโงซึ่งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา วัดและศาล
เจ้าทั้งสามแห่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเนื่องจาก สิ่งก่อสร้างในวัดและศาลเจ้าแห่งนิกโกได้
สะท้อนให้เห็นถึงอัจฉริยะทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปะของญี่ปุ่นที่ผสมกลมกลืนกับที่ตั้งในป่าเขา
และธรรมชาติที่สวยงาม อันสื่อความหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่งมนุษย์และธรรมชาติตามปรัชญา
พุทธและชินโต
ติดต่อสอบถามแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่
http://www.iam-tour.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น